วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552

คู่มือการใช้งานโปรแกรม Map Window GIS

คู่มือการใช้งานโปรแกรม Map Window GIS
ชัยภัทร เนื่องคำมา
Email: pk_a1977@hotmail.com
1. บทนำ
MapWindow GIS เป็นโปรแกรมประเภท Desktop GIS ซึ่งออกแบบมาให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำงานทางด้านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ได้อย่างสะดวก โดยเน้นไปที่การใช้งานที่ง่ายและมีฟังก์ชันการทำงานที่ค่อนข้างหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาฟังก์ชั่นเฉพาะในรูปแบบของ plug-in สำหรับการวิเคราะห์ที่เฉพาะทางเช่น การวิเคราะห์เรื่องน้ำ (hydrology), การวิเคราะห์ข้อมูลสภาพภูมิประเทศ เป็นต้น โปรแกรมนี้จัดเป็นโปรแกรมประเภทรหัสเปิด (Open Source) ที่อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ The Mozilla Public License 1.1 ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถนำโปรแกรมนี้มาใช้งานได้โดยที่ได้ต้องเสียค่าซอฟ์ทแวร์ ซึ่งเหมาะกับหน่วยงานหรือสถาบันการศึกษาที่ต้องการนำระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์มาใช้ในองค์กรแต่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ
บทความชุดนี้ทำขึ้นเพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการ ไม่ได้มีเจตนาทำขึ้นเพื่อจำหน่ายหรือใช้เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจแต่อย่างใด
2. การติดตั้งโปรแกรม
1. ทำการดาว์โหลดโปรแกรม MapWindow GIS จาก URL
http://www.mapwindow.org/download.php?file_name=http://svn.mapwindow.org/svnroot/InstallationProjects/4.2/Release/MapWindow42SR.exe&show_details=1&dl=1
2. Double click ไฟล์ MapWindow42SR.exe เพื่อทำการติดตั้งโปรแกรม
3. ทดลองรันโปรแกรม MapWindow GIS กรณีที่สามารถติดตั้งได้สำเร็จจะปากฏหน้าตาเริ่มต้นของโปรแกรมดังรูปที่ 1
รูปที่ 1 แสดงหน้าต่างต้อนรับของโปรแกรม MapWindow GIS
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
2
3. การใช้งานโปรแกรม MapWindow GIS ทั่วไป
สำหรับโปรแกรม MapWindow GIS มีหน้าต่าง แถบเครื่องมือและฟังก์ชันการทำงานที่เหมือนกับโปรแกรม GIS ทั่วไป ผู้ใช้หลายท่านน่าจะคุ้นเคยมาบ้างแล้ว ดังนั้นในส่วนนี้ ผมจะขอกล่าวถึงเฉพาะส่วนที่แตกต่างไปจากโปรแกรมทั่วไปเท่านั้น
3.1 การนำเข้าข้อมูลเชิงพื้นที่
โปรแกรม MapWindow GIS สนับสนุนการทำงานกับข้อมูลทั้งประเภทเวกเตอร์และราสเตอร์ โดยชนิดของรูปแบบการจัดเก็บข้อมูล (format) มีค่อนข้างหลากหลายโดยเฉพาะในข้อมูลราสเตอร์ แต่ค่อนข้างจำกัดในข้อมูลเวกเตอร์เมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่นๆ โดยรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลของข้อมูลเวกเตอร์จะสนับสนุนเฉพาะ shapefile กับ coverage เท่านั้น การนำเข้าข้อมูลสามารถทำได้ดังนี้ครับ
1. ไปที่คำสั่ง View >> Add Layer
2. ทำการเลือกไดเร็กทอรี่ที่เก็บชั้นข้อมูลที่ต้องการ
รูปที่ 2 แสดงการเลือกไฟล์ที่ต้องการนำเข้าในโปรแกรม
รูปที่ 3 แสดงการชนิดไฟล์ที่สามารถนำเข้าในโปรแกรม Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
3
รูปที่ 4 แสดงผลลัพธ์การนำเข้าข้อมูลในโปรแกรม
3.2 การแสดงผลข้อมูลเชิงพื้นที่
3.2.1 แถบควบคุมการแสดงผลแผนที่
โปรแกรม Map Window GIS มีแถบเครื่องมือควบคุมการทำงานของแผนที่เหมือนกับโปรแกรม GIS ทั่วไปดังภาพที่ 5
รูปที่ 5 แสดงแถบเครื่องมือควบคุมการแสดงผลแผนที่
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
4
3.2.2 การกำหนดรูปแบบและสัญลักษณ์ของแผนที่
1. คลิ๊กขวาที่ชั้นข้อมูล และเลือกแถบคำสั่ง Properties
2. เลือก Coloring Scheme บนหน้าต่าง Legend Editor
รูปที่ 6 แสดงหน้าต่างที่ใช้กำหนดรูปแบบการแสดงผลของแผนที่
3. ทำการเลือกฟิลด์ที่จะใช้เป็นค่าในการจำแนกสี และกำหนดรูปแบบการจำแนกข้อมูล
รูปที่ 7 แสดงการกำหนดรูปแบบการจำแนกกลุ่มข้อมูล
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
5
รูปที่ 8 แสดงผลลัพธ์การกำหนดรูปแบบการจำแนกกลุ่มข้อมูล
3.2.3 การกำหนดมุมมองภาพรวมแผนที่ (Overview Map)
1. ไปที่เมนู Edit >> Preview Map >> Update Using Full Extents
รูปที่ 9 แสดงคำสั่งการเปิดมุมมองภาพรวมของแผนที่
Overview Map
รูปที่ 10 แสดงผลลัพธ์คำสั่งการเปิดมุมมองภาพรวมของแผนที่ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
6
3.3 การจัดการข้อมูลเชิงบรรยาย
โปรแกรม MapWindow GIS มีฟังก์ชันที่ใช้ในการจัดการข้อมูลเชิงบรรยายที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ผ็ใช้สามารถใช้งานผ่านอินเตอร์เฟสได้อย่างสะดวก
3.3.1 การแสดงผลข้อมูลเชิงบรรยาย
1. ทำการเลือกชั้นข้อมูลที่ต้องการ ด้วยการ click บนแถบชั้นข้อมูล
2. ไปที่แถบเครื่องมือ Table Editor
Table Editor Tool
รูปที่ 11 แสดงข้อมูลเชิงบรรยายในรูปแบบตาราง
3.3.2 การแก้ไขหรือปรับปรุงข้อมูลเชิงบรรยาย
3.3.2.1 การเพิ่มฟิลด์ของตารางข้อมูล
1. ไปที่เมนู Edit >> Add Field เพื่อทำการเพิ่มฟิลด์
กำหนดชื่อฟิลด์
กำหนด Data Type
กำหนด ขนาดข้อมูล
รูปที่ 12 แสดงการกำหนดคุณสมบัติของฟิลด์ที่จะทำการเพิ่ม
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
7
3.3.2.2 การลบฟิลด์ของตารางข้อมูล
1. ไปที่เมนู Edit >> Remove Field เพื่อทำการเพิ่มฟิลด์
เลือกชื่อฟิลด์ที่ต้องการลบ
รูปที่ 13 แสดงการเลือกฟิลด์ที่จะทำการลบ
3.3.2.3 การลบฟิลด์ของตารางข้อมูล
1. ไปที่เมนู Edit >> Rename Field เพื่อทำการเปลี่ยนชื่อฟิลด์
เลือกชื่อฟิลด์ที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ
กำหนดชื่อใหม่ที่ต้องการ
รูปที่ 14 แสดงการเลือกฟิลด์ที่จะทำการเปลี่ยนชื่อ
3.3.2.4 การคำนวณค่าของข้อมูล
1. ไปที่เมนู Tools >> Field Calculator Tool เพื่อทำการนำข้อมูลที่อยู่ในฟิลด์มาคำนวณทางสถิติเบื้องต้น
2. ทำการสร้างเงื่อนไขในการคำนวณโดยสามารถนำค่าของข้อมูลที่อยู่ในฟิลด์ต่างๆมาใช้คำนวณร่วมในสมการได้ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
8
ฟิลด์ต่างๆที่นำมาใช้ในการคำนวณได้
ฟังก์ชันคณิตศาสตร์ที่ใช้คำนวณ
สร้างสมการเงื่อนไขในการคำนวณ
รูปที่ 15 แสดงหน้าต่างของ Field Calculator Tool
3.3.2.5 การเชื่อมโยงตารางจากภายนอก
1. ไปที่เมนู Tools >> Import Field Definitions from DBF เพื่อทำการเชื่อมโยงตารางหลักที่ทีกับตารางอื่นๆภายนอกที่อยู่ในรูปแบบ dbf
2. ทำการเลือกไฟล์ dbf ที่ต้องการทำการเชื่อมโยง
รูปที่ 16 แสดงการเลือกไฟล์ dbf เพื่อทำการเชื่อมโยงตารางฐานข้อมูล
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
9
รูปที่ 17 แสดงผลลัพธ์การเชื่อมโยงตารางฐานข้อมูล
3.4 การสืบค้นข้อมูล
การสืบค้นข้อมูลในโปรแกรม MapWindow GIS สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทคือการสืบค้นด้วยฟังก์ชั่นเชิงพื้นที่และการสืบค้นจากข้อมูลเชิงบรรยาย
3.4.1 การสืบค้นข้อมูลด้วยฟังก์ชั่นเชิงพื้นที่
โปรแกรม MapWindow GIS สามารถทำการสืบค้นด้วยค่าพิกัดภูมิศาสตร์และขอบเขตภูมิศาสตร์ โดยจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ไปที่แถบเครื่องมือ Feature Identifier
2. ทำการกำหนดค่าพิกัดที่จะใช้ในการสืบค้น โดยการคลิ๊กไปยังตำแหน่ง
ที่ต้องการสืบค้นบนแผนที่
คลิ๊กตำแหน่งที่ต้องการ
ผลลัพธ์ทีได้จากการสืบค้น
รูปที่ 18 แสดงตำแหน่งบนแผนที่ที่ต้องการสืบค้น Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
10
3. ทดลองใช้เมาส์ลากขอบเขตการค้นหาบนแผนที่
กำหนดขอบเขตการสืบค้น
รูปที่ 19 แสดงการกำหนดขอบเขตบนแผนที่ที่ต้องการสืบค้น
3.4.2 การสืบค้นจากข้อมูลเชิงบรรยาย
โปรแกรม MapWindow GIS มีเครื่องมือสำหรับสร้างชุดคำสั่ง SQL ในการสืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูล โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ทำการกำหนดชั้นข้อมูลที่ต้องการจะทำการสืบค้น ด้วยการคลิ๊กที่ชั้นข้อมูลแผนที่บนแถบควบคุมชั้นข้อมูลแผนที่
2. เปิดตารางฐานข้อมูลโดยไปที่แถบเครื่องมือ Table Editor
รูปที่ 20 แสดงตารางฐานข้อมูล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
11
3. ไปที่เมนู Selection >> Query
4. กำหนดฟิลด์ที่จะใช้ในการสร้างเงื่อนไขเพื่อสืบค้น
รูปที่ 21 แสดงหน้าตา Query Builder สำหรับสร้างคำสั่ง SQL
รูปที่ 22 แสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการสืบค้นในรูปแบบตาราง
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
12
3.5 การสร้างและปรับแก้ข้อมูลเชิงพื้นที่
3.5.1 การสร้างข้อมูลเชิงพื้นที่
โปรแกรม Map Window GIS มีฟังก์ชั่นการทำงานที่รองรับการสร้างชั้นข้อมูลแผนที่เชิงเส้นทั้งประเภท จุด (Point), เส้น (line), โพลีกอน (Polygon) โดยที่ผู้ใช้สามารถสร้างข้อมูลด้วยการทำ Head-Up Digitize จากหน้าจอโปรแกรมได้ทันที
1. ทำการเปิดภาพออร์โธโฟโต้ที่ใช้เป็นแหล่งข้อมูลขึ้นมา โดยไปที่เมนู View >> Add Layer
2. ทำการโหลด plug-in ที่ชื่อว่า Shapfile Editor โดยไปที่เมนู Plug-ins >> Shapfile Editor
รูปที่ 23 แสดงแถบเครื่องมือ Shapfile Editor
3. ไปคลิ๊กที่ Create New Shapefile บนแถบเครื่องมือ
รูปที่ 24 แสดงการกำหนดไดเร็กทอรี่สำหรับจัดเก็บและชนิดของ Geometry ของ Shapfile
4. ทำการดิจิไตล์อาคารจากภาพออร์โธโฟโต้ โดยคลิ๊กที่ปุ่ม Add new shape to current shapefile บนแถบเครื่องมือแล้วลากเส้นขอบอาคาร
รูปที่ 25 แสดงการดิจิไตล์อาคารจากภาพออร์โธโฟโต้ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
13
5. ทำการเปิดตารางฐานข้อมูลของชั้นข้อมูลอาคารที่สร้างขึ้น
รูปที่ 26 แสดงตารางฐานข้อมูลของชั้นข้อมูลอาคารที่สร้างใหม่
6. เพิ่มคอลัมน์เพื่อใช้ในการจัดเก็บข้อมูลเชิงบรรยายที่สัมพันธ์กับข้อมูลเชิงพื้นที่ โดยไปที่เมนู edit>>add field
รูปที่ 27 แสดงการกำหนดคุณสมบัติคอลัมน์ที่สร้างใหม่
7. ทำการพิมพ์ข้อมูลเชิงบรรยายลงในตารางตามที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Apply เพื่อทำการบันทึกข้อมูล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
14
รูปที่ 28 แสดงตารางผลลัพธ์ที่ได้ทำการใส่ค่าข้อมูลเชิงบรรยาย
3.5.2 การแก้ไขข้อมูลเชิงพื้นที่
การแก้ไขข้อมูลเชิงพื้นที่ด้วยโปรแกรม Map Window GIS สามารถทำได้ตามขั้นตอนต่างๆดังต่อไปนี้
1. ทำการเลือกฟีเจอร์ที่ต้องการปรับแก้ โดยไปที่แถบคำสั่ง Move an Existing vertex in Shape แล้วใช้เมาส์คลิ๊กไปที่ฟีเจอร์บนแผนที่
2. เลือก vertex ที่ต้องการปรับแก้แล้วทำการคลิ๊กเมาส์ข้าง เพื่อลากจุด vertexไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
คลิ๊กที่จุด Vertex ที่ต้องการปรับแก้
รูปที่ 29 แสดงผลลัพธ์ที่ได้ทำการใส่ค่าข้อมูลเชิงบรรยาย Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
15
3. กรณีที่ต้องการเพิ่มหรือลบจุด vertex ให้ไปที่แถบเครื่องมือและคลิ๊กที่ปุ่ม Add vertex หรือ Remove Vertex เพื่อทำการเพิ่มหรือลบข้อมูลจากฟีเจอร์
รูปที่ 30 แสดงแถบเครื่องมือสำหรับเพิ่มหรือลบ vertex
3.6 การประมวลผลข้อมูลเชิงพื้นที่
โปรแกรม Map Window GIS มีฟังก์ชันการประมวลผลข้อมูลเชิงพื้นที่ที่หลากหลาย ครอบคลุมการทำงานทั่วไปของระบบงาน GIS โดยแบ่งประเภทของฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ประเภทหลักคือ Vector, Raster และ Image
3.6.1 ฟังก์ชั่นการวิเคราะห์และประมวลผลสำหรับข้อมูล Vector
3.6.1.1 ฟังก์ชั่น Assign Projection to shapefile
Assign Projection to shapefile เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้สำหรับกำหนดค่าระบบพิกัดอ้างอิง (Spatial Reference System) ด้วยการสร้างไฟล์ prj กำกับ ให้กับข้อมูล Vector โดยมีขั้นตอนการทำงานดังต่อไปนี้
1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>> Assign Projection to shapefile
2. ทำการหาไดเร็กทอรี่ที่เก็บไฟล์ แล้วเลือก shapefile ที่ต้องการ
3. กำหนดค่า Map Projection และค่า Datum ให้กับข้อมูล
รูปที่ 31 แสดงการกำหนดค่าระบบพิกัดอ้างอิง (Spatial Reference System)
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
16
รูปที่ 32 แสดงไฟล์ผลลัพธ์ที่ได้จากการกำหนดค่าระบบพิกัดอ้างอิง
3.6.1.2 ฟังก์ชั่น Buffer Shapes
ฟังก์ชั่น Buffer Shapes เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้สำหรับในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ โดยมีขั้นตอนการทำงานดังต่อไปนี้
1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>>Buffer Shapes
2. กำหนดชั้นข้อมูลที่ต้องการวิเคราะห์
รูปที่ 33 แสดงชั้นข้อมูลที่ต้องการสร้าง buffer
3. กำหนดรายละอียดในการคำนวณสำหรับสร้าง buffer
ขนาดรัศมีของ Buffer
ผลลัพธ์ที่ได้
ตำแหน่งการสร้าง
ระบุไดเร็กทอรี่ที่ทำการจัดเก็บข้อมูล
รูปที่ 35 แสดงการกำหนดรายละเอียดในการคำนวณ Buffer
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
17
รูปที่ 36 แสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณ Buffer
3.6.1.3 ฟังก์ชั่น Calculate Polygon Area
ฟังก์ชั่น Calculate Polygon Area เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้สำหรับคำนวณพื้นที่ของสี่เหลี่ยมรูปปิด โดยมีขั้นตอนการทำงานดังต่อไปนี้
1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>>Calculate Polygon Area
2. ทำการกำหนดชั้นข้อมูลประเภทโพลีกอนเพื่อทำการคำนวณ
3. กำหนดคอลัมน์ที่จะทำการเก็บค่าพื้นที่ที่ได้จากการคำนวณ
4. กำหนดหน่วยของผลลัพธ์พื้นที่ที่ต้องการ
เลือกชั้นข้อมูลที่ต้องการ
กำหนดชื่อฟิลด์ใหม่ที่เก็บผลลัพธ์
กำหนดหน่วยของพื้นที่
รูปที่ 37 แสดงหน้าต่างการกำหนดพารามิเตอร์ในการคำนวณพื้นที่ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
18
3.6.1.4 ฟังก์ชั่น Clip Shapefile with polygon
ฟังก์ชั่น Clip Shapefile with polygon เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้สำหรับการตัดชั้นข้อมูลด้วยโพลีกอน โดยมีขั้นตอนการทำงานดังต่อไปนี้
1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>> Clip Shapefile with polygon
2. กำหนดชั้นข้อมูลที่ต้องการจะ Clip
3. กำหนดชั้นข้อมูลที่ใช้เป็นตัวแบบ (template) ในการตัด ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะบางฟีเจอร์ในชั้นข้อมูลเพื่อทำการตัดได้
4. กำหนดไดเร็กทอรี่ที่ใช้ในการจัดเก็บผลลัพธ์ที่ได้
เลือกชั้นข้อมูลที่ต้องการ Clip
เลือกเฉพาะบางฟีเจอร์ในชั้นข้อมูลเพื่อใช้ในการตัด
เลือกตัวแบบ Template ที่ใช้ในการตัด
กำหนดไดเรกทอรี่ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล
รูปที่ 38 แสดงหน้าต่างการกำหนดพารามิเตอร์ในการประมวลผล
3.6.1.5 ฟังก์ชั่น Merge Shapefile
ฟังก์ชั่น Merge Shapefile เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการเชื่อมชั้นข้อมูลแผนที่สองชุดให้กลายเป็นชั้นข้อมูลเดียวกันหรือใช้ในการเชื่อมฟีเจอร์หลายๆฟีเจอร์เข้าด้วยกัน โดยมีขั้นตอนการทำงานดังต่อไปนี้
1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Vector>> Merge Shapefile
2. กำหนดชั้นข้อมูลที่ต้องการจะ Merge ในกรณีที่ต้องการ Merge เฉพาะฟีเจอร์ที่อยู่ในชั้นข้อมูลเดียวกัน ก็สามารถทำโดยการใช้เมาส์คลิ๊กเลือกฟีเจอร์ที่ต้องการ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
19
รูปที่ 39 แสดงการกำหนดฟีเจอร์ที่ต้องการจะทำการ Merge
3. ทำการกำหนดไดเรกทอรี่ปลายทางที่จะทำการจัดเก็บผลลัพธ์
เลือกชั้นข้อมูลชุดแรกที่ต้องการ Merge
กดปุ่ม Select Shape เมื่อต้องการจะเลือกบางฟีเจอร์
เลือกชั้นข้อมูลชุดที่สองที่ต้องการ Merge
กำหนดไดเร็กทอรี่จัดเก็บข้อมูลปลายทาง
รูปที่ 40 แสดงการกำหนดพารามิเตอร์ในการประมวลผล
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
20
รูปที่ 41 แสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล
3.6.2 ฟังก์ชั่นการวิเคราะห์และประมวลผลสำหรับข้อมูล Raster
3.6.2.1 ฟังก์ชั่นการ Reproject Grid
ฟังก์ชั่นการ Reproject Grid เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ในการแปลงค่าระบบพิกัดอ้างอิง (Spatial Reference System) ของข้อมูลราสเตอร์ โดยข้อมูลราสเตอร์จำเป็นต้องมีค่าพิกัดภูมิศาสตร์เริ่มต้องก่อนทำการประมวลผลทุกครั้ง การทำงานจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>> Reproject Grid
2. ทำการนำเข้าข้อมูลราสเตอร์ที่ต้องการจะทำการแปลงค่าระบบพิกัดเข้าสู่โปรแกรม
ไฟล์ราสเตอร์ที่จะทำการแปลงค่าพิกัด
ผลลัพธ์ที่ได้จากการ Merge Feature
รูปที่ 42 แสดงหน้าต่างรายงานสถานะของข้อมูลราสเตอร์ที่จะทำการประมวลผล
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
21
3. กำหนดระบบพิกัดผลลัพธ์ที่ต้องการแปลง ในกรณีที่ข้อมูลยังไม่มีการระบุรายละเอียดของระบบพิกัดมาก่อนโปรแกรมจะบังคับให้ผู้ใช้ระบุพิกัดของข้อมูลก่อน
รูปที่ 43 แสดงการเลือกระบบพิกัดที่ต้องการแปลง
3.6.2.2 ฟังก์ชั่นการ Change Grid format
ฟังก์ชั่นการ Change Grid format เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ในการแปลงรูปแบบชนิดการเก็บข้อมูลของราสเตอร์ การทำงานจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>> Change Grid format
2. ทำการนำเข้าข้อมูลราสเตอร์ที่ต้องการจะทำการแปลงรูปแบบชนิดการเก็บข้อมูลของราสเตอร์
ไฟล์ราสเตอร์ที่จะทำการแปลงรูปแบบการจัดเก็บ
รูปที่ 44 แสดงหน้าต่างรายงานสถานะของข้อมูลราสเตอร์ที่จะทำการประมวลผล
3. กำหนดประเภทฟอร์แมท์ที่ต้องการและขนาดของการจัดเก็บข้อมูลของแต่ละพิกเซล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
22
รูปที่ 45 แสดงการกำหนดรายละเอียดสำหรับข้อมูลผลลัพธ์
3.6.2.3 ฟังก์ชั่นการ Resample Grids
ฟังก์ชั่นการ Resample Grids เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ในการแปลงขนาดพิกเซลของข้อมูลของราสเตอร์ การทำงานจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>> Resample Grids
2. ทำการนำเข้าข้อมูลราสเตอร์ที่ต้องการจะทำการแปลงรูปแบบขนาดพิกเซลของราสเตอร์
ไฟล์ราสเตอร์ที่จะทำการแปลงขนาดพิกเซล
รูปที่ 46 แสดงหน้าต่างรายงานสถานะของข้อมูลราสเตอร์ที่จะทำการประมวลผล
3. กำหนดขนาดของพิกเซลที่ต้องการสำหรับภาพผลลัพธ์ แล้วทำการกำหนดรูปแบบการจัดเก็บข้อมูล Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
23
รูปที่ 47 แสดงการกำหนดรายละเอียดการจัดเก็บข้อมูลของภาพผลลัพธ์
รูปที่ 48 แสดงภาพผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล
3.6.2.4 ฟังก์ชั่น GeoReference Image or grid
ฟังก์ชั่น Geo Reference Image and grid เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ในการกำหนดค่าพิกัดภูมิศาสตร์อ้างอิงให้กับข้อมูลภาพราสเตอร์ การทำงานจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ไปที่เมนู GIS Tools>>Raster>>GeoReference Image or grid
2. ทำการนำเข้าข้อมูลราสเตอร์ที่ต้องการจะทำการกำหนดค่าพิกัดภูมิศาสตร์ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
24
กดปุ่มคำสั่ง Load file เพื่อนำภาพเข้ามาทำการ Rectify
รูปที่ 49 แสดงการนำเข้าข้อมูลภาพที่จะทำการตรึงค่าพิกัด
3. ทำการนำเข้าข้อมูลตำแหน่งพิกัดอ้างอิงที่จะใช้ในการกำหนดค่าพิกัดให้กับข้อมูลภาพราสเตอร์ โดยในตัวอย่างนี้จะทำการนำเข้า point จากการเก็บค่าพิกัดด้วย GPS ดังภาพที่ 50
ค่าพิกัดภูมิศาสตร์ของตำแหน่งควบคุมภาพที่ได้จากการวัดด้วย GPS
รูปที่ 50 แสดงการเตรียมข้อมูลค่าพิกัดภูมิศาสตร์ที่จะใช้ในการ Rectify ข้อมูลภาพ
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
25
4. ทำการกำหนดตำแหน่งที่จะตรึงค่าพิกัด โดยใช้เมาส์คลิ๊กบนภาพดังภาพที่ 51
ค่าพิกัดภาพของตำแหน่งบนภาพที่อ่านได้
ทำการ Click ที่จุดแรกเพื่ออ่านค่าพิกัดภาพ
รูปที่ 51 แสดงการกำหนดตำแหน่งที่สนใจบนภาพเพื่ออ่านค่าพิกัดภาพ
5. ทำการ Click ที่ตำแหน่งเดียวกันบนแผนที่ที่ทราบค่าพิกัดภูมิศาสตร์โลก โดยในตัวอย่างนี้ใช้ค่าพิกัดจากการเก็บด้วย GPS และนำเข้ามาแสดงในรูปแบบ point
นำเมาส์ไป Click ที่จุดทราบค่าพิกัดภูมิศาสตร์ เพื่อนำค่านั้นมาใช้ในการคำนวณ
รูปที่ 52 แสดงการกำหนดค่าพิกัดภูมิศาสตร์โลกจากแผนที่ Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา
26
6. ทำจนครบทั้งหมด 3 ตำแหน่งทั้ง Point 1, Point2, Point3 แล้วทำการกดปุ่ม Georeference เพื่อทำการคำนวณ
ค่าพิกัดใหม่ที่ได้จากการคำนวณ โดยใช้ค่าพิกัดที่ทำการเก็บด้วย GPS
รูปที่ 53 แสดงภาพผลลัพธ์ที่มีพิกัดภูมิศาตร์หลังจากการประมวลผลเรียบร้อยแล้ว
4. สรุป
บทความฉบับนี้เน้นไปที่การทำงานของฟังก์ชั่นหลักๆของโปรแกรม Map Window GIS เพื่อให้ผู้ใช้หลายท่านได้ทำความรู้จักกับโปรแกรม Open Source ตัวนี้ ยังมีอีกหลายฟังก์ชั่นที่ผมยังไม่ได้กล่าวถึงในบทความชุดนี้ รวมถึงความสามารถขั้นสูงของโปรแกรม Map Window GIS เช่นการเปิดช่องทางให้โอกาสโปรแกรมเมอร์เขียน script ด้วยภาษา vb.net หรือ C# เพื่อสร้างฟังก์ชั่นหรือ customizes โปรแกรมให้เฉพาะทางได้ และการวิเคราะห์ขั้นสูงด้วยโมเดลต่างๆเป็นต้น คิดว่าในอนาคตถ้าโอกาสอำนวยน่าจะได้มีโอกาสกล่าวถึงเรื่องนี้ต่อไป ขอบคุณครับ...
Map Window GIS 4.2.2 Manual ชัยภัทร เนื่องคำมา

แหล่งที่มา http://gotoknow.org/file/pkgis_chula/MapWindowGISMANUAL_compress.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น